Hybrid Mortar ทางเลือกซ่อมพื้นโรงงานสมัยใหม่

คุณยังคิดว่า การซ่อมพื้นโรงงาน ยังเป็นเรื่องยุ่งยาก ซ่อมแล้วยังต้องหยุดไลน์ผลิต หยุดพื้นที่ปิดซ่อมนานอยู่หรือเปล่า?

ถ้าคำตอบคือ ใช่ อยากให้คุณได้มาลองอ่านบทความนี้ให้จบ เพื่อทำความรู้จัก “Hybrid Mortar”นวัตกรรมปูนซ่อมพื้นยุคใหม่ที่ทั้งแข็งแรง เซ็ตตัวไว และอาจจะทำให้คุณซ่อมพื้นโรงงานได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน

ในยุคที่ทุกวินาทีมีมูลค่า คือ ‘เงิน’  เจ้าของโรงงานหรือผู้รับเหมาจึงต้องหาเทคโนโลยีการซ่อมแซมพื้นแบบใหม่ ที่ไม่เพียงแค่ซ่อมเสร็จแล้วพื้นเรียบสวยเท่านั้น แต่ต้องประหยัดเวลา แห้งไว กลับมาเปิดใช้งานได้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หากขั้นตอนการซ่อมต้องใช้เวลานาน ในมุมของเจ้าของโรงงานที่ต้องสูญเสียรายได้มหาศาล ขณะเดียวกันช่างผู้รับเหมาที่เป็นคนรับงานก็ขาดโอกาสในการรับงานถัดไป กระทบค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้

การซ่อมพื้นโรงงานระบบเดิม อาจต้องแย็กพื้นคอนกรีตใหม่ เทปูนซ่อมพื้นโรงงาน ทิ้งระยะเวลาเพื่อให้ปูนแห้ง แล้วจึงเริ่มทำพื้นเคลือบ Epoxy เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้ผิวคอนกรีต ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานในการปิดพื้นที่นานกว่า 1-2 สัปดาห์ แค่รู้ว่าต้องปิดไลน์ผลิตนานเป็นสัปดาห์ พื้นเจ้าของโรงงาน คลังสินค้าได้ฟังอาจไม่ชอบใจนัก

แต่ถ้า Hybrid Mortar  ช่วยให้คุณ ไม่ต้องทำ 2 รอบ ก็ได้ล่ะ? 

นั่นจึงกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘Hybrid Mortar’  ปูนซ่อมพื้นโรงงานทางเลือกใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาพื้นโรงงานเสียหายได้อย่างรวดเร็วและคุ้มค่าที่สุด

Hybrid Mortar คืออะไร ?

Hybrid Mortar  คือ มอร์ตาร์เทปรับระดับที่มีส่วนผสมของสารเติมแต่งชนิดพิเศษใดอื่น ๆ ผสมเข้ากับปูนมอร์ตาร์เพื่อประสิทธิภาพในการซ่อมแซม ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ได้รับการวิจัยและพัฒนาขึ้นมาเพื่อปรับปรุงพื้นผิวคอนกรีตที่สึกกร่อนภายในโรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า และลานจอดรถภายในอาคารโดยเฉพาะ ทำให้ได้ผิวที่เงาสวย หลังขัดเงาให้ผิวเรียบเนียนคล้ายพื้นคอนกรีตขัดมัน

เช่นเดียวกับ Hybrid Mortar  ของ Ferro ปูนมอร์ตาร์สำหรับซ่อมแซมพื้นผิวคอนกรีตที่มีส่วนผสมของอีพ็อกซี่ พัฒนาขึ้นมาเพื่อลดขั้นตอนการทำงาน ลดงบประมาณในการซ่อมแซม แต่ได้พื้นที่เรียบเงา สวยงาม ได้คุณภาพพื้นที่ดีในขั้นตอนเดียว โดยไม่ต้องเคลือบอีพ็อกซี่ซ้ำ โดย Ferro เรียกผลิตภัณฑ์การซ่อมแซมพื้นชนิดนี้ว่า  เฟอร์โรกรีต 215E ชนิด  Hybrid Epoxy-Cement

Hybrid Mortar : เฟอร์โรกรีต 215E ตอบโจทย์ปัญหาอะไรบ้าง?

อย่างที่เข้าใจกันดีว่า ความเรียบเนียนของพื้นโรงงาน เป็นเรื่องที่เจ้าของโรงงานให้ความสำคัญมาก โดยเฉพาะพื้นที่ใช้เป็นโกดังและคลังสินค้าเพื่อเก็บสต๊อกของ เนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีการเก็บสินค้าวางซ้อนกันเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีรถโฟล์คลิฟต์สัญจรตลอดเวลา

หากพื้นโรงงานเสื่อมสภาพ สึกกร่อนเสียหาย ก็ยิ่งส่งผลต่อความปลอดภัยของพนักงาน การดำเนินงานของเครื่องจักร และประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าในพื้นที่ หากปล่อยไว้นานโดยไม่ซ่อมแซม อาจนำไปสู่ความเสียหายใหญ่ที่กระทบต่อเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากในระยะยาว เฟอร์โรกรีต 215E สามารถซ่อมพื้นโรงงาน ปัญหาที่เจ้าของโรงงานกังวลได้

ลดเวลาหยุดไลน์ผลิต

หนึ่งในต้นทุนแฝงที่แพงที่สุด คือ เวลาในการหยุดไลน์ผลิต การซ่อมพื้นแบบเดิม อาจต้องใช้เวลาหยุดไลน์ผลิตนานกว่า 1 สัปดาห์ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการผลิต และรายได้ของโรงงาน Hybrid Mortar  จึงออกแบบระบบพื้นที่สามารถติดตั้งและเปิดใช้งานได้ภายใน 3 วัน ด้วยคุณสมบัติของปูนซ่อมพื้นโรงงานที่มีคุณสมบัติแห้งไว จึงช่วยลด Downtime ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

·      วันที่ 1 เตรียมผิวพื้นคอนกรีตเดิมด้วยเครื่องกัดผิวหน้าคอนกรีต แล้วทาน้ำยารองพื้นอีพ็อกซี่สูตรน้ำทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง

·      วันที่ 2 เทมอร์ตาร์ปรับระดับพื้น ชนิด Hybrid Epoxy-Cement ความหนา 5-15 มิลลิเมตร

·      วันที่ 3 ขัดผิวให้แข็งแกร่งเงาสวย ได้พื้นผิวหลังขัดคล้ายพื้นคอนกรีตขัดมัน หรือหากไม่ต้องการขัดเงา ก็สามารถเปลือยผิวด้าน และเปิดใช้ได้เลยทันที

ลดงบประมาณในการซ่อมแซม 

แม้วัสดุซ่อมพื้นโรงงานอย่าง Hybrid Mortar  จะมีต้นทุนการซ่อมต่อตารางเมตรสูงกว่าปูนซีเมนต์พื้นฐานทั่วไป แต่หากเปรียบเทียบภาพรวมทั้งกระบวนการซ่อมแล้ว การใช้มอร์ตาร์เทปรับระดับสามารถประหยัดงบประมาณได้มากกว่า การซ่อมพื้นโรงงานสึกร่อนแบบดั้งเดิมจะต้องแย็กพื้นเทใหม่ งบประมาณที่โรงงงานต้องจ่ายเพิ่มเติม จึงไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมพื้นสึกกร่อน แต่ยังต้องเสียค่าเคลื่อนย้ายปูนที่สกัดทิ้ง ค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้าย รวมถึงค่าแรงงานที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น  ฯลฯ การเปลี่ยนมาใช้ ไฮบริด มอร์ตาร์ จึงตอบโจทย์เรื่องการการลดงบประมาณในการซ่อมแซมได้มากกว่า

ลดขั้นตอนในการทำงาน

การเทซ่อมพื้นโรงงานด้วย เฟอร์โรกรีต 215E จะช่วยลดขั้นตอนการเคลือบพื้นผิว Epoxy เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการซ่อมพื้นโรงงานบริเวณคลังสินค้า เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าต้องการจำกัดงบประมาณ เพราะการซ่อมพื้นแบบปกติจะต้องเทซ่อมพื้นคอนกรีตก่อน แล้วจึงเคลือบผิวชั้นบนสุดด้วยอีพ็อกซี่ Hybrid Mortar  จึงเป็นนวัตกรรมใหม่ที่พัฒนามาเพื่อช่วยลดขั้นตอนทำงานได้เป็นอย่างดี

ลดรอยแตกร้าวลายงา

รอยแตกร้าวลายงา เป็นเรื่องที่เจ้าของโรงงานส่วนใหญ่ให้ความสำคัญมาก รอยร้าวลายงาเกิดจากการหดตัวของปูนหลังแห้ง โดยเฉพาะพื้นโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความเรียบเนียนมาก เพราะหากมีน้ำซึมผ่านรอยร้าวลายงาลงไปยังพื้นคอนกรีต อาจทำให้ผิวคอนกรีตที่ซ่อมนั้นไม่แข็งแรง และหลุดล่อนได้ Hybrid Mortar  จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดรอยแตกร้าวลายงาของพื้นคอนกรีตได้ เพราะมีคุณสมบัติหดตัวต่ำ ทั้งยังมีส่วนผสมของ Epoxy ช่วยให้ผิวแข็งแกร่ง ลดการแตกร้าวลายงา ป้องกันการขีดข่วนได้ดี

เฟอร์โรกรีต 215E ใช้แทนพื้น  Epoxy ได้หรือไม่? 

เฟอร์โรกรีต 215E ว่าไม่ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อทดแทนการทำเคลือบพื้น Epoxy เพราะการเคลือบพื้น Epoxy มีคุณสมบัติเฉพาะที่จำเป็นต่อการทำพื้นโรงงานบางประเภท โดยเฉพาะพื้นโรงงานผลิตอาหาร โรงงานผลิตยา ฯลฯ แต่ Hybrid Mortar เฟอร์โรกรีต 215E พัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็น ‘ทางเลือกในการซ่อมแซมพื้นโรงงาน’  อีกประเภทหนึ่ง เหมาะสำหรับเทพื้นโรงงานที่ไม่ได้สัมผัสกรด-ด่าง ไม่ได้เจอสารเคมีรุนแรง หรือรับแรงกระแทกสูง เช่น คลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า พื้นที่โหลดและเก็บสต๊อกสินค้าทั่วไป

ข้อดีในการซ่อมด้วยปูนเทปรับพื้นโรงงาน เฟอร์โรกรีต 215E คือ สามารถจบงานได้ในครั้งเดียว ไม่ต้อง “เทปูนซ่อม รอแห้ง แล้วเคลือบ Epoxy” อีกต่อไปแล้ว แต่ถ้าหากลูกค้าต้องการเคลือบผิวบนด้วยอีพ็อกซี่ ก็สามารถทาสีอีพ็อกซี่ทับเพื่อกันฝุ่นและเพิ่มความสวยงามได้เช่นเดียวกัน

คุณสมบัติเด่น เฟอร์โรกรีต 215E

• ผิวเรียบ บางและแกร่ง : ช่วยเปลี่ยนพื้นผิวที่สึกกร่อนให้กลับมาเรียบเนียน แข็งแรง ด้วยการซ่อมเทปรับพื้นบางเพียง 5-15 มิลลิเมตร ความแข็งแรงตามมาตรฐานวิศวกรรม เหมาะกับการซ่อมพื้นโรงงานเฉพาะจุดหรือทั้งซ่อมทั้งระบบ โดยไม่ต้องสกัดพื้นและรื้อโครงสร้างเดิมออก

• ค่ารับน้ำหนักสูง :  ช่วยให้พื้นสามารถรับน้ำหนักได้ดีเยี่ยมกว่า 300 KSC. เหมาะกับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม พื้นคลังสินค้า หรือพื้นลานจอดรถชั้นวนในห้างสรรพสินค้าได้เป็นอย่างดี

• เปิดใช้งานพื้นที่ได้เร็ว : ด้วยคุณสมบัติของ Hybrid Mortar  ที่เซ็ตตัวไว การเทพื้นด้วยเฟอร์โรกรีต 215E ช่วยลดเวลาปิดพื้นที่ไลน์ผลิตให้สามารถกลับมาเปิดใช้งานได้ภายใน 3 วัน ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการงบประมาณ เวลา และทรัพยากรในโรงงานได้อย่างมีนัยสำคัญ

• มีสีสันสวยงามและเงา : เฟอร์โรกรีต 215E นอกจากช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ที่ปลอดภัยให้พื้นโรงงานแล้ว ลูกค้ายังสามารถเลือกสีให้เหมาะกับกับบริเวณการใช้งานได้ทั้งหมด 2 สี คือ สีเทาอ่อนและสีเขียว รวมถึงสามารถขัดเงาเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและสวยงามให้กับพื้นโรงงานได้

Hybrid Mortar : คำตอบของงานซ่อมพื้นโรงงานที่ช่างต้องการ

สำหรับผู้ประกอบการหรือช่างที่มองหาโซลูชันการซ่อมพื้นที่ “เร็ว แกร่ง คุ้ม” – Hybrid Mortar  คือวัสดุที่ช่างมืออาชีพจะเลือกใช้เป็นอันดับต้น ๆ ในยุคที่ทุกนาที คือ ต้นทุน โดยเฉพาะพื้นโรงงานต้องการความแข็งแรง ทนทาน และสามารถเปิดใช้งานได้ในเวลารวดเร็ว เหมาะกับโรงงานที่ไม่สามารถหยุดไลน์การผลิตนานได้ ทั้งยังช่วยลดขั้นตอน ลดต้นทุน และลดความถี่ในการซ่อมบำรุงในระยะยาว

เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการซ่อมพื้นโรงงานแบบเดิมแล้ว Hybrid Mortar มีความได้เปรียบทั้งในด้านค่าใช้จ่าย ความรวดเร็ว และความสะดวกในการใช้งานจริง เฟอร์โรกรีต 215E จึงกลายเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการ โซลูชันซ่อมพื้นที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าในยุคอุตสาหกรรมที่ต้องการความเร็ว